ห่างกันสักพัก เป็นประโยคที่ชายหนุ่มบางคนอาจใช้บอกกับคนรักเมื่อไม่แน่ใจถึงความสัมพันธ์ที่จะดำเนินต่อไป เราเป็นอะไร เราควรทำอย่างไร เราอยู่ในจุดไหน และนั่นคงเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กันที่เกิดขึ้นในใจของ ซีเนอดีน ซีดาน คุมทีม ราชันชุดขาว หรือ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน เขามาถึงทางตันในความสัมพันธ์ครั้งนี้
ถ้าเราเคยจำกันได้ การอำลาถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว ของอดีตเพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์สูงที่ผันตัวมาเป็นกุนซือว่ากันว่าเป็นเพราะอิ่มตัวกับความสำเร็จ หรืออาจเพราะความขัดแย้งภายในเรื่องอำนาจการบริหารทีม แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร 10 เดือนต่อมา เขาก็มายืนที่เดิม แต่สภาพทีมในตอนนี้ต่างออกไป ว่ากันตามตรง ทั้งอันดับในตารางและผลงานฟุตบอลถ้วย แถมด้วยข่าวลือต่างๆ ทำให้ “ราชันชุดขาว” ตอนนี้ไม่ต่างจากทีมแพแตก
ความรักที่มีต่อสโมสรทำให้เขากลับมา อันที่จริงแล้วบ้านในสเปนของเขาก็อย่ไม่ไกลสนามซ้อม ลูกชายคนโตเป็นผู้รักษาประตูมือ 3 ของทีมชุดใหญ่ และคนรองกับคนสุดท้องก็ยังอยู่ในระบบเยาวชน เขาไม่ได้ไปไหนไกลเลย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับการกลับมาในครั้งนี้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
ซีเนอดีน ซีดาน คุมทีม ราชัดชุดขาว จะเป็นอย่างไร
ห้องแต่งตัวที่ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่ง
หลังเปลี่ยนกุนซือ จาก ฆูเลน โลเปเตกี มาเป็น ซานติอาโก โซลารี่ เสียงของนักเตะก็ไม่ได้เบาบางลงสักเท่าไร เพราะมีการเปลี่ยนผู้เล่นไปบางตำแหน่ง และทุกคนต้องเจอโรเตชั่น ดังนั้นมันก็มีคนที่พอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง แต่ว่ากันว่า ในวันที่สโมสรตัดสินใจเปลี่ยนแปลง มีนักเตะกลุ่มหนึ่งจับมือกันบอกกับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรว่า พวกเขาไม่ต้องการ โชเซ่ มูรินโญ่ กลับมา
บรรดาตัวเก๋ารัก ซีดาน เด็กรุ่นใหม่หลายคนยังเติบโตมาโดยมีเขาเป็นไอดอล บารมีของเขายังเหลือให้ใช้อีกหลายปี เริ่มต้นดี ฟังดูง่าย แต่ก็ไม่ง่าย อย่างที่รู้ว่ามีบางคน เช่น แกเร็ธ เบล ไม่ได้เป็นที่รักของ ซีดาน เท่าไร แต่บังเอิญว่า ตอนที่ย้ายเข้ามา เขามีค่าตัวแพงที่สุดในโลก และยังแพงที่สุดในทีม ณ ตอนนี้ เปเรซ จึงไม่อยากหน้าแตก พร้อมกับความหวังที่ยังหลงเหลือว่า ใครก็ตามที่เป็นกุนซือจะใช้งานเขาอย่างคุ้มค่า จนกลายเป็นปัญหาที่ใครก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
สั่งซื้อ ซื้อ! สั่งขาย ขาย!
การเข้ามาในช่วงวิกฤตเช่นนี้อาจเป็นช่วงที่ดีที่สุดก็ได้ เวลาของวีรบุรุษที่จะเข้ามากอบกู้ทีมที่กำลังระส่ำระสาย ไม่มีตอนไหนเหมาะเท่าตอนนี้ ซีดานมีอำนาจที่จะเรียกร้องอะไรก็ได้ ไม่เหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้ สำหรับหลายทีมไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก การแทรกแซงโดยผู้บริหารเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะผู้บริหารก็มีมุมมองที่ต้องสงวนไว้ และถ่วงดุลอำนาจจากกุนซือ ไม่อย่างนั้นทีมอาจพังถ้าโอนเอียงไปทางใดทางเดียว โอ้โห! เรื่องการเมืองชัดๆ
ข่าวลืออีกอย่างก็คืออำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับทีม ไม่อยากใช้ใครต้องขาย อยากได้ใครต้องซื้อให้ เป็นอีกจุดสำคัญ อยากจะขายใคร เบล หรือเปล่า? ก็ยังไม่มีใครแน่ใจ อาจมีมากกว่านี้ แต่ 2 คนที่ต้องเก็บไว้ เป็นลูกรักของ ซีดาน คือ มาร์เซโล่ และ อิสโก้
ในที่สุด เอแด็น อาซาร์
ช่วงระหว่างที่ มาดริด กำลังเจอมรสุมคลื่นซัดสาด แฟนๆ เชลซี จำนวนไม่น้อยเชื่อว่า โอกาสที่นักเตะเบอร์หนึ่งของทีมจะย้ายไปคงมีไม่มาก กุนซือเปลี่ยน แผนการเปลี่ยน อะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิม แม้ เอแด็น อาซาร์ ยังไม่ต่อสัญญาใหม่ แต่ถ้าทีมดังแดนกระทิงดุมีสภาพแบบนั้น มันก็ไม่ใช่ทีมที่น่าอยู่สักเท่าไร จนกระทั่ง ซีดาน กลับมา เกมก็พลิก
เชื่อว่าสาวก “สิงห์บลูส์” จำนวนมากยังไม่ลืมที่ อาซาร์ เคยบอกว่า เขามี ซีดาน เป็นไอดอลในดวงใจ เขาเลียนแบบสไตล์การเล่นของ ซีดาน มาโดยตลอด และในเมื่อมีโอกาสที่จะได้เรียนแบบตัวต่อตัว ทำไมจะไม่ไป
แน่นอนว่า มีข่าวลือกับนักเตะรายอื่นด้วย อย่าง คริสเตียน อีริคเซ่น หรือ ปอล ป็อกบา ไม่เว้น เนยมาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ เพราะแนวรุกขาดสภาพจนชวนปวดหัว
นูโว กาแล็คติกอส
เมื่อครั้งที่คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 มีคนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าทีมชุดนี้มีแกนหลักหลายรายกำลังจะหมดสภาพ คาริม เบนเซม่า อายุมากขึ้น เช่นเดียวกับ มาร์เซโล่, ลูก้า โมดริช, และ เซร์คิโอ รามอส พวกเขาไม่ใช่คนที่คู่แข่งต้องหวั่นเกรงอีกต่อไป ด้วยเสียงครหา เช่นนี้ ซีดาน จึงกลับมาปกป้องมรดกของเขาไปพร้อมกับสร้างทายาทสืบทอดความยิ่งใหญ่
เขาคือหนึ่งในทีมชุดเก่งทะลุโลก “กาแล็คติกอส” เขารู้ดีว่าส่วนประกอบในทีมชั้นยอดควรมีอะไร อันที่จริง โลเปเตกี หรือ โซลารี่ ก็มีสิทธิ์ที่จะสร้างทีมเหนือโลกชุดใหม่ได้ แต่ในเมื่อมันไม่ได้ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังหยิบจับดาวรุ่งส่งขึ้นทีมชุดใหญ่ได้น่าสนใจบ้าง
อันที่จริง มีอะไรอีกหลายอย่างที่ ซีดานน่าจะทำได้ หากเป็นตามข่าวลือที่เขาสามารถเขียนใบสั่งอะไรก็ได้ดังใจ สั่งกะเพราก็ได้กะเพรา ราวกับร้านอาหารแถวบ้าน น่าเสียดายที่มาช้าไปไม่กี่วัน ไม่อย่างนั้นเราอาจเห็น เรอัล พลิกเกมและเดินหน้าลุ้นชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 14 และสมัยที่ 4 ติดต่อกัน แต่นั่นมันก็แค่ความฝันเท่านั้น